มนุษย์มีการใช้งานสัตว์ชนิดต่าง ๆ ด้วยวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันมาตั้งแต่อดีต เคยมีการประเมินจำนวนสัตว์ที่ถูกใช้งานต่อปีในประเทศสหรัฐอเมริกา จำแนกตามวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน ดังนี้
สัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ คือสัตว์ที่ถูกมนุษย์นำมาใช้ศึกษา หรือทดสอบสิ่งต่างๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตหรือความเป็นอยู่ของทั้งมนุษย์และสัตว์ รวมถึงเพื่อให้ได้มาซึ่งองค์ความรู้ที่ไม่อาจได้มาด้วยวิธีการอื่นๆ
ในประเทศสหรัฐอเมริกา จำนวนและข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ จะถูกรวบรวมโดย Institute for Laboratory Animal Resources หรือ ILAR ซึ่งเป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นโดยสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (National Research Council) ทำหน้าที่โดยตรงในการประสานงานและรวบรวมข้อมูลการใช้สัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ภายในประเทศ และอีกหนึ่งหน่วยงาน คือสำนักผู้ตรวจโรคพืชและสัตว์ (Animal and Plant Health Inspection Service หรือ APHIS) ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้กระทรวงเกษตรของประเทศสหรัฐอเมริกา (U.S. Department of Agriculture หรือ USDA) ความแตกต่างของทั้งสองหน่วยงานอยู่ที่ APHIS จะเน้นรับข้อมูลจากสถาบันวิจัยที่ขึ้นตรงต่อกระทรวงเกษตรเป็นหลักเท่านั้น ทำให้จำนวนสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกรายงาน มักมีจำนวนน้อยกว่า ILAR แต่ถึงแม้จะมีตัวเลขที่สามารถสังเกตได้อย่างเป็นรูปธรรม และมีแนวโน้มการใช้สัตว์ที่ลดลง (ดังที่แสดงในตารางที่ 1 ถึงจำนวนสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ที่เผยแพร่โดย ILAR และ APHIS ในช่วงปีคริสต์ศักราช 1967 ถึงปี 1987) หน่วยงานกลางที่ทำหน้าที่ประเมินข้อมูลเหล่านี้ยังคงมีความเห็นว่า ข้อมูลจากทั้งสองหน่วยงานยังขาดความเที่ยงตรง ซึ่งทำให้ยากต่อการนำข้อมูลมาใช้ในการประเมินถึงแนวโน้มการใช้สัตว์ว่าเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างไร
ตารางที่ 1 จำนวนสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกใช้ในประเทศสหรัฐอเมริกาในปีต่าง ๆ
ชนิดสัตว์ |
หน่วยงาน, ปี |
|||||
ILAR, 1967 |
ILAR, 1978 |
APHIS, 1982 |
APHIS, 1984 |
APHIS, 1986 |
APHIS, 1987 |
|
จำนวนรายงาน |
1,371 |
1,252 |
1,127 |
1,108 |
1,126 |
1,183 |
หนูเมาส์ |
22,772,300 |
13,413,813 |
6,889,744 |
|||
หนูแรท |
6,131,000 |
4,358,766 |
2,725,814 |
|||
หนูแฮมสเตอร์ |
785,900 |
368,934 |
417,267 |
437,123 |
370,655 |
416,002 |
หนูตะเภา |
613,300 |
426,665 |
497,860 |
561,184 |
462,699 |
538,998 |
สัตว์ฟันแทะอื่น ๆ |
60,500 |
79,993 |
||||
กระต่าย |
504,500 |
439,986 |
547,312 |
529,101 |
521,773 |
534,385 |
แมว |
99,300 |
54,908 |
59,961 |
56,910 |
54,125 |
50,145 |
สุนัข |
262,000 |
183,063 |
194,867 |
201,936 |
176,141 |
180,169 |
สัตว์กินเนื้ออื่น ๆ |
9,100 |
4,990 |
||||
สัตว์มีกีบ |
106,200 |
144,595 |
||||
NHP |
57,700 |
30,323 |
54,565 |
55,338 |
48,540 |
61,392 |
นก |
2,070,500 |
450,352 |
||||
รวม |
33,472,300 |
19,956,388 |
11,387,390 |
1,841,692 |
1,633,933 |
1,801,091 |
หมายเหตุ NHP (Nonhuman primate) หมายถึงสัตว์ตระกูลลิงที่ไม่ใช่มนุษย์
ในประเทศสหรัฐอเมริกา หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐคือ องค์กรหลักที่มีการใช้สัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์มากที่สุด โดยแบ่งย่อยเป็นกระทรวงและหน่วยงานที่อยู่ภายใต้กระทรวงนั้น ซึ่งใช้สัตว์เพื่องานวิจัยและงานทดสอบภายใน เช่น
โดยมีการประเมินว่า ในปี 1983 มีจำนวนสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ที่ถูกใช้โดยหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐประมาณ 1.6 ล้านตัวต่อปี โดย 90% ของสัตว์เหล่านี้คือ หนูเมาส์และหนูแรท
สัตว์อีกจำนวนหนึ่งยังถูกใช้เพื่องานด้านการเรียนการสอนภายในวิทยาลัยด้านการแพทย์ และการสัตวแพทย์ สำหรับจำนวนสัตว์ที่ถูกใช้ในด้านนี้ยังไม่ได้รับการสำรวจแน่ชัด แต่มีการประเมินจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่ามีจำนวนประมาณ 50,000 – 60,000 ตัวต่อปี
นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ข้างต้น ยังมีการใช้สัตว์ในองค์กรเอกชนเพื่อวัตถุประสงค์อื่น โดยเฉพาะการใช้สัตว์เพื่อทดสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยของสารเคมี ยา เวชภัณฑ์ และเครื่องสำอางต่าง ๆ การทดสอบเหล่านี้ยังมีความจำเป็นต้องใช้สัตว์ แต่จำนวนสัตว์ที่ต้องใช้จะมีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการทดสอบ เช่น
จำนวนที่แท้จริงของสัตว์ที่ถูกใช้ในงานด้านการทดสอบเหล่านี้ยังไม่แน่ชัด เนื่องจากการทดสอบเหล่านี้นิยมใช้หนูเมาส์และหนูแรท ซึ่งตามกฎหมายว่าด้วยการจัดสวัสดิภาพของสัตว์ (Animal Welfare Act) นั้น ไม่จำเป็นต้องรายงานจำนวนการใช้สัตว์แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ดี มีการประเมินว่าสัตว์ที่ถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์นี้มีจำนวนไม่น้อยกว่าหลายล้านตัวต่อปี
เทคโนโลยีที่ก้าวหน้ากับอนาคตของการใช้สัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology) มีผลอย่างมากต่อชนิดและจำนวนของสัตว์ที่ถูกใช้เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ ชนิดและจำนวนของสัตว์อาจลดลง เมื่อเทคโนโลยีชีวภาพสามารถพัฒนาวิธีการใหม่ที่ปราศจากการใช้สัตว์ และให้ผลลัพธ์ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลได้
ตัวอย่างการใช้เทคโนโลยีชีวภาพที่มีต่อการใช้สัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ ได้แก่ การผลิตวัคซีนป้องกันโรคเรบีส์ หรือที่ในอดีตเคยรู้จักกันในชื่อโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่งก่อนหน้านี้จำเป็นต้องมีการนำเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกายสัตว์โดยตรง ปัจจุบัน การผลิควัคซีนป้องกันโรคเรบีส์สามารถทำได้ง่าย โดยการใช้เทคนิคการสร้างดีเอ็นเอสายผสม (recombinant DNA) ซึ่งช่วยลดจำนวนการใช้สัตว์ลงได้อย่างมาก
เทคนิควิศวกรรมชีวการแพทย์ (bioengineering) เป็นอีกหนึ่งสาขาย่อยของเทคโนโลยีชีวภาพที่มีบทบาทสำคัญต่อการลดชนิดและจำนวนของสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ เนื่องจากเป็นเทคนิคที่ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถออกแบบ พัฒนา คาดการณ์ หรือทำนายกลไก และหน้าที่ของสารเคมีที่มีต่อระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ซึ่งช่วยลดจำนวนของสัตว์ที่จำเป็นต้องใช้ในงานวิจัยเหล่านั้น อย่างไรก็ตาม สารประกอบชนิดใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยวิธีการนี้ ยังจำเป็นต้องผ่านการศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยในสิ่งมีชีวิต ทำให้การใช้สัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์สามารถลดลง แต่ยังไม่อาจหมดไปได้ เนื่องจากการใช้สัตว์ในวัตถุประสงค์นี้ยังคงมีความสำคัญ และจำเป็นต่อผลการทดลองที่แม่นยำและเชื่อถือได้
อีกด้านหนึ่ง ความต้องการชนิดและจำนวนของสัตว์อาจเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีชีวภาพยังทำให้เกิดการพัฒนาสายพันธุ์สัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ที่มีความเหมาะสมต่องานทดลองประเภทต่าง ๆ มากขึ้น เช่น การพัฒนาหนูเมาส์ที่ผ่านการตัดต่อยีน (Transgenic mice) ที่จำเพาะต่อโรค ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการศึกษาเกี่ยวกับกลไกของโรค และยาที่เกี่ยวกับโรคนั้น ๆ ได้ดีขึ้น
ทำให้แนวโน้มของความต้องการการใช้สัตว์ในกลุ่มนี้อาจเพิ่มสูงขึ้น
เอกสารอ้างอิง